THE DEVELOPMENT OF ENGLISH CRITICAL READING ABILITIES USING THE QUEST ANALYSIS FOR ENGLISH MAJORS

Abstract

The research objectives were to: 1) compare the students’ English critical reading abilities before and after learning by using the QUEST analysis and 2) survey the students’ opinions toward learning by using the QUEST analysis.

The participants, selected by simple random sampling, comprised 33 third-year students majoring in English, Faculty of Humanities and Social Sciences, Nakhon Pathom Rajabhat University.

The research instruments consisted of: 1) nine lesson plans using the QUEST analysis, 2) a questionnaire used to survey the students’ opinions toward learning by using the QUEST analysis and 3) a reflective learning log used to obtain more information about the students’ opinions.

The paired-samples t-test was used to analyze the gathered data in order to assess the students’ English critical reading abilities before and after learning by using the QUEST analysis. The mean and the standard deviation of items were also used to evaluate the students’ opinions toward learning using the QUEST analysis. The results revealed as follows:

1. The students’ English critical reading abilities after learning by using the QUEST analysis was significantly higher than before learning by using the QUEST analysis at the 0.05 level.

2. The students’ opinions toward learning by using the QUEST analysis were at a high level ( x̄ = 3.84, S.D. = 0.43).

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความสามารถทางการอ่านภาษาอังกฤษอย่างมีวิจารณญาณของนักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาภาษาอังกฤษ (ศิลปศาสตรบัณฑิต) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ก่อนและหลังการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ QUEST และ 2) ศึกษาความคิดเห็นของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ QUEST

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาภาษาอังกฤษ (ศิลปศาสตรบัณฑิต) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม รวมทั้งสิ้น 33 คน ซึ่งได้มาจากวิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ QUEST จำนวน 9 แผน 2) แบบทดสอบวัดความสามารถทางการอ่านภาษาอังกฤษอย่างมีวิจารญาณก่อนและหลังการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ QUEST 3) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ QUEST และ 4) แบบบันทึกสะท้อนการเรียนรู้ (Reflective learning log)

การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ t-test แบบจับคู่เพื่อเปรียบเทียบความสามารถทางการอ่านภาษาอังกฤษอย่างมีวิจารณญาณของนักศึกษาก่อนและหลังการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ QUEST และใช้ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานในการหาค่าระดับความคิดเห็นของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ QUEST ผลการวิจัยพบว่า

1. ความสามารถทางการอ่านภาษาอังกฤษอย่างมีวิจารณญาณของนักศึกษาหลังการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ QUEST สูงกว่าก่อนการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ QUEST อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

2. นักศึกษามีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนการสอนโดยใช้กระบวนการวิเคราะห์ QUEST ในภาพรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยมาก โดยมีค่าเฉลี่ย (x̄) เท่ากับ 3.84 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.43