Please use this identifier to cite or link to this item: http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/2387
Title: THE BEST PRACTICES IN ADMINISTRATION OF THANPHUYINGCHANTHIMAPHUEGBARAMI SCHOOL UNDER HER ROYAL HIGHNESS PRINCESS MAHA CHAKRI SIRINDHORN'S PROJECTS, BUREAU OF THE ROYAL HOUSEHOLD
แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการบริหารงานโรงเรียนท่านผู้หญิงจันทิมาพึ่งบารมีในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
Authors: Wirote CHAIPHAKDEE
วิโรจน์ ไชยภักดี
Nopadol Chenaksara
นพดล เจนอักษร
Silpakorn University. Education
Keywords: แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ, การบริหารโรงเรียน
THE BEST PRACTICE
SCHOOL ADMINISTRATION
Issue Date:  29
Publisher: Silpakorn University
Abstract: The purposes of this research were to determine 1) the best practices in school administration of Thanphuyingchanthimaphuegbarami School under Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn’s Projects, Bureau of The Royal Household 2) the result of confirming the best practices in the administration of Thanphuyingchanthimaphuegbarami School under Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn’s Projects, Bureau of The Royal Household In the field of accuracy, appropriateness, feasibility, and usefulness, it is a descriptive research conducted by the Documentary Study. The case study school is Thanphuyingchanthimaphuegbarami School under Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn’s Projects, Bureau of The Royal Household, Sakon Nakhon Province, under the Office of secondary educational service area 23. The instrument used in this research were the document study form, semi-structured interview form. And a questionnaire to confirm the best practices in school administration of Thanphuyingchanthimaphuegbarami School. The interviewees from the school were 1 school administrator, 1 deputy school administrator, 4 head for administration group, 8 teachers, 1 student president and 1 school committee, totally 16 peoples and a group of experts to confirm the best practice for school administration were 7 persons. The statistical used were Frequency, Percentage and Content analysis. The results of the research were as follows: 1. The best practices in administration of Thanphuyingchanthimaphuegbarami School under Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn’s Projects, Bureau of The Royal Household according to the Regulation of Ministry of Education in management 2007 of 4 areas such as 1) the academic management found 18 best practices, 2) the budget management found 13 best practices, 3) human resource management found 13 best practices and 4) general management found 25 best practices. 2. The 7 specialists confirmed that 69 the best practices in administration of Thanphuyingchanthimaphuegbarami School under Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn’s Projects, Bureau of The Royal Household according to the Regulation of Ministry of Education in management 2007 were accuracy, appropriateness, feasibility, and usefulness.
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทราบ 1) แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการบริหารงานโรงเรียนท่านผู้หญิง จันทิมาพึ่งบารมีในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2) ผลการยืนยันแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการบริหารงานโรงเรียนท่านผู้หญิง จันทิมาพึ่งบารมีในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในด้านความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ เป็นการวิจัยเชิงพรรณาโดยการศึกษาเอกสาร โรงเรียนกรณีศึกษาคือ โรงเรียนท่านผู้หญิงจันทิมาพึ่งบารมี อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 23 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบบันทึกการศึกษาเอกสาร แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และแบบสอบถามความคิดเห็นเพื่อยืนยันแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการบริหารงานโรงเรียนท่านผู้หญิง จันทิมาพึ่งบารมี กลุ่มผู้ให้ข้อมูลในการสัมภาษณ์ จากโรงเรียนกรณีศึกษา ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน 1 คน รองผู้บริหารโรงเรียน 1 คน หัวหน้ากลุ่มงานบริหาร 4 คน ครู 8 คน ประธานนักเรียน 1 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียน 1 คน รวมทั้งหมด จำนวน 16 คน และกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเพื่อยืนยันแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศการบริหารงานโรงเรียนจำนวน 7 คน สถิติที่ใช้คือ ความถี่ ร้อยละ และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1. แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการบริหารงานโรงเรียนท่านผู้หญิงจันทิมาพึ่งบารมีในโครงการพัฒนา เด็กและเยาวชน ในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามภาระหน้าที่การบริหารงานในโรงเรียน 4 ด้าน ตามกฎกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจาย อำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา พ.ศ.2550 ได้แก่ ด้านการบริหารงานวิชาการ พบแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ 18 แนวปฏิบัติ ด้านการบริหารงานงบประมาณ พบแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ 13 แนวปฏิบัติ ด้านการบริหารงานบุคคล พบแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ 13 แนวปฏิบัติ และ ด้านการบริหารงานทั่วไป พบแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ 25 แนวปฏิบัติ  2. ผลการยืนยันแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการบริหารงานโรงเรียนท่านผู้หญิงจันทิมาพึ่งบารมี ในโครงการพัฒนาเด็ก และเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามภาระหน้าที่การบริหารงานในโรงเรียน 4 ด้าน ตามกฎกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา พ.ศ.2550 ได้แก่ ด้านการบริหารงานวิชาการ ด้านการบริหารงานงบประมาณ ด้านการบริหารงานบุคคล และด้านการบริหารงานทั่วไป พบว่าแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศจำนวน 69 แนวปฏิบัติ มีความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ 
Description: Doctor of Philosophy (Ph.D.)
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ปร.ด.)
URI: http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/2387
Appears in Collections:Education

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
56252932.pdf5.12 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.