Please use this identifier to cite or link to this item:
http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/2719
Title: | GUIDELINES FOR PROMOTION BAN RONGHUAD EARTHENWARE LEARNING CENTER ACCORDING TO PHILOSOPHY OF THE SUFFICIENCY ECONOMY แนวทางส่งเสริมแหล่งเรียนรู้เครื่องปั้นดินเผาบ้านโรงหวดตามแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง |
Authors: | Saowanee THUPTHONG เสาวนีย์ ธูปทอง nirut vatthanophas นิรุทธ์ วัฒโนภาส Silpakorn University. Education |
Keywords: | แนวทางการส่งเสริม แหล่งเรียนรู้ เครื่องปั้นดินเผาบ้านโรงหวด THE SUPPORTING APPROACH LEARNING CENTER BAN RONGHUAD EARTHENWARE |
Issue Date: | 10 |
Publisher: | Silpakorn University |
Abstract: | The objective of this research were 1) To study state and problem
Ban Ronghuad Earthenware Learning Center at Ngiw Rai Sub-District, Nakhon Chaisri
District, Nakhon Pathom Province. 2) To present the supporting approach for
Ban Ronghuad Earthenware Learning Center according to Philosophy of the
Sufficiency Economy. The sample consisted of 355 samples. There were
55 Secondary School and Non-Formal Teachers in Nakhon Chaisri District,
291 Secondary Schools and Non-Formal Students in Nakhon Chaisri District by using
Stratified random Sampling and 9 Stakeholders in this community by using
Purposive Sampling. The data were collected through survey and semistructured
interview. The data were analyzed through averaged statistic and Standard
Deviation and prior to descriptive and analyze data.
The results showed 1) The stated and problem were Ban Ronghuad Earthenware Learning Center lacked of Traditional Craftmanship Successor and Learning Activity Administration is not well – known and knowledges, learning process, resources and administration was quite required. 2) The staffs in the learning center should have an ability in service, knowledge instruction, patient, living intelligence and serviced-mind. Moreover the staffs should create Facebook Fanpage for advertising learning center and develop the learning center into learning resource continuously. การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการ แหล่งเรียนรู้เครื่องปั้นดินเผาบ้านโรงหวด ตำบลงิ้วราย อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม และ 2) เสนอแนวทางส่งเสริมแหล่งเรียนรู้เครื่องปั้นดินเผาบ้านโรงหวดตามแนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย 1) ครูโรงเรียนมัธยมศึกษา และครู กศน. อำเภอนครชัยศรี จำนวน 55 คน และนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครปฐม เขต 2 และนักศึกษา กศน. อำเภอนครชัยศรี จำนวน 291 คน รวมทั้งสิ้น 346 คน ใช้การสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ (Stratified random Sampling) และ 2) ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในชุมชน จำนวน 9 คน ใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือการเก็บข้อมูล เป็นแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์กึ่งมีโครงสร้าง วิเคราะห์โดยใช้สถิติค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณา ผลการวิจัย 1) สภาพปัญหา พบว่า แหล่งเรียนรู้เครื่องปั้นดินเผาบ้านโรงหวด มีความซบเซา ขาดผู้สืบทอดงานภูมิปัญญาการปั้นเครื่องปั้นดินเผา ขาดการบริหารจัดการเรื่องของ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ ภายในแหล่งเรียนรู้ที่ยังไม่เป็นที่น่าสนใจ และยังไม่เป็นที่รู้จัก แพร่หลายของคนทั่วไป และความต้องการแหล่งเรียนรู้เครื่องปั้นดินเผาบ้านโรงหวด พบว่า ด้านความรู้ ด้านกระบวนการเรียนรู้ ด้านทรัพยากรและการบริหารจัดการยังมีความต้องการอยู่ใน ระดับมาก และ 2) แนวทางการส่งเสริมแหล่งเรียนรู้เครื่องปั้นดินเผา พบว่า บุคลากรในแหล่งเรียนรู้นั้นต้องมีความสามารถในการให้บริการ สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ มีความอดทนอดกลั้น มีสติปัญญาในการดำเนินชีวิต มีความเอาใจใส่ในการบริการแก่ผู้รับบริการ และควรมีการจัด ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียล จัดสร้างเพจเครื่องปั้นดินเผา การทำเฟสบุ๊ค วีดิทัศน์นำเสนอประวัติ ชุมชน การปั้นเครื่องปั้นดินต่อสาธารณะ และมีการจัดระบบเพื่อพัฒนาเครื่องปั้นดินเผาบ้านโรงหวด ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาของชุมชนต่อไป |
Description: | Master of Education (M.Ed.) ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (ศษ.ม) |
URI: | http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/2719 |
Appears in Collections: | Education |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
59251212.pdf | 5.31 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.