Factors Affecting the Behavior of Choosing to Use the Modern Trade of People in Banpong District Ratchaburi Province

Abstract

Modern trade business be a part of retail operations or a potential wholesale business. And capable to create higher incomes. Which is a result of the increasing number of branches and there are many types of business expansion. Making it able to better serve the needs of consumers. Doing business today has changed due to the continuous and rapid technological development, the behavior of consumers has changed. Including online media at very popular. Consumers have access to the internet almost always. Makes it possible to buy-sell products online It is another way that consumers are interested and causing behavior in choosing to use modern retail services. The purpose of this research is 1) to study demographic factors that are related to the behavior of choosing to use modern trade. 2) to study the factors of digital marketing that are related to the behavior modern trade. 3) to study marketing mix factors that are related to the behavior of choosing to use modern trade. It’s a quantitative research. The sample consisted of people who use modern trade that live in Banpong District, Ratchaburi province 400 people were collected by distributing questionnaires. The statistics used for data analysis were percentage, mean and standard deviation, and use Chi-Square statistics to test hypotheses.

The result of the research showed that most demographic factors are female. Age between 41-50 years, marital status, most of the education level is bachelor degree. Occupation as a company employee with an average monthly income of more than 30,001 baht. Digital marketing factors and Marketing mix factors correlate with the behavior of choosing to use modern trade both the type of product you want to buy reasons to buy products service frequency and places that tend to choose to use the service. With statistical significance at the level of 0.05 except for gender demographic factors that doesn’t relation to the behavior of choosing to use the service of modern trade regarding the reason for buying. With statistical significance at the level of 0.05

ธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ เป็นส่วนหนึ่งของกิจการค้าปลีก หรือกิจการค้าส่งที่มีศักยภาพ และมีความสามารถในการสร้างรายได้ที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการมีจำนวนสาขาที่เพิ่มมากขึ้น และมีการขยายธุรกิจหลากหลายรูปแบบ ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ดีมากขึ้น การทำธุรกิจในยุคปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงไป เนื่องจากมีการพัฒนาของเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง และรวดเร็ว ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงสื่อออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ผู้บริโภคมีพฤติกรรมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเกือบจะตลอดเวลา ทำให้สามารถซื้อ-ขายสินค้า ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ และทำให้เกิดพฤติกรรมการเลือกใช้บริการร้านค้าปลีกสมัยใหม่ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการเลือกใช้บริการร้านค้าปลีกสมัยใหม่ของประชาชน 2) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านการตลาดดิจิทัลที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการเลือกใช้บริการร้านค้าปลีกสมัยใหม่ของประชาชน และ 3) เพื่อศึกษาปัจจัยด้านส่วนประสมทางการตลาดที่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการเลือกใช้บริการร้านค้าปลีกสมัยใหม่ของประชาชน เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง คือ ประชาชนผู้ใช้บริการร้านค้าปลีกที่อาศัยในอำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การแจกแจงความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติ Chi-Square ในการทดสอบสมมติฐาน

ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยประชากรศาสตร์ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 41-50 ปี สถานภาพสมรส ระดับการศึกษาส่วนใหญ่อยู่ในระดับปริญญาตรี ประกอบอาชีพพนักงานบริษัท มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 30,001 บาท ปัจจัยด้านการตลาดดิจิทัล และปัจจัยด้านส่วนประสมทางการตลาด มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรมการเลือกใช้บริการร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ทั้งด้านประเภทสินค้าที่ต้องการซื้อ เหตุผลในการซื้อสินค้า ความถี่ในการเข้าใช้บริการ และสถานที่ที่มักเลือกใช้บริการ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ยกเว้นปัจจัยประชากรศาสตร์ด้านเพศ ที่ไม่มีความสัมพันธ์ต่อพฤติกรรม การเลือกใช้บริการร้านค้าปลีกสมัยใหม่ด้านเหตุผลในการซื้อ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05