THE DEVELOPMENT OF ENGLISH READING COMPREHENSION ABILITYTHROUGH MURDOCH INTEGRATED APPROACH (MIA) AND SIX THINKING HATSOF MATTHAYOM 1 STUDENTS

Abstract

The purposes of the research were to 1) compare student's English Reading Comprehension Ability before and after Murdoch Intergrade Approach (MIA) and Six Thinking Hats and 2) study student's opinions toward learning management through Murdoch Intergrade Approach (MIA) and Six Thinking Hats. The sample group in this research 30 Mattayomsuksa 1 students of Kururatrungsarit School who were studying in the second semester of 2021. The cluster random sampling technique was employed for selecting, the sample group and classroom was a random unit. In addition, the research tools were; 1) learning plans 2) a test of reading comprehension ability and 3) a questionnaire about the student's opinions toward learning management through Reading Comprehension Ability before and after Murdoch Intergrade Approach (MIA) and Six Thinking Hats. The mean (M), standard deviation (SD), dependent t-test and relative change score were applied for data analysis.

The findings were as follows:

1. The student's English Reading Comprehension Ability after studying (M = 23.07, SD = 2.32) through Murdoch Intergrade Approach (MIA) and Six Thinking Hats were significantly higher than those before studying (M = 12.19, SD = 1.94) at the .05 level. The student’s percentage of development was as a higher level which was 59.21.

2. The student's opinions toward learning management through Murdoch Intergrade Approach (MIA) and Six Thinking Hats were positive at an excellent level (M = 4.51, SD = 0.17)

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจก่อนและหลังเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนอ่านของเมอร์ด็อก (MIA) ร่วมกับเทคนิคหมวก 6 ใบ และ 2) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนอ่านของเมอร์ด็อก (MIA) ร่วมกับเทคนิคหมวก 6 ใบ กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนคุรุราษฎร์รังสฤษฏ์ ซึ่งกำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 30 คน โดยใช้การสุ่มแบบกลุ่ม (cluster random sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่มด้วยวิธีการจับสลาก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ 2) แบบวัดความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และ 3) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนอ่านของเมอร์ด็อก (MIA) ร่วมกับเทคนิคหมวก 6 ใบ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย (M) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) สถิติทดสอบที (t-test) แบบ Dependent และการวัดค่าเปลี่ยนแปลงสัมพัทธ์

ผลการวิจัยพบว่า

1. ความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียน (M = 23.07, SD = 2.32) ด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนอ่านของเมอร์ด็อก (MIA) ร่วมกับเทคนิคหมวก 6 ใบ สูงกว่าก่อนเรียน (M = 12.19, SD = 1.94) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยนักเรียนมีร้อยละพัฒนาการเพิ่มสูงขึ้น 59.21

2) ความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีการสอนอ่านของเมอร์ด็อก (MIA) ร่วมกับเทคนิคหมวก 6 ใบ มีความคิดเห็นในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (M = 4.51, SD = 0.17)