Competencies of Human Resources Executives in Hotel Business : Analysis Using Delphi Technique

Abstract

Present, competence is essential to the performance of human resource executives in the 3–5-star hotel business due to the global situation and the current situation in Thailand affecting the tourism industry. Thus, the hotel business has been affected widely making human resource executives improve their competencies to suit the changing circumstances in order to create a competitive advantage in business. This study on competency of human resource executives in hotel business using Delphi technique aimed 1) to study the scope of human resource executives’ competency in the 3-5-star hotel business and 2) to determine key performance indicators of human resource executives in the 3-5-star hotel business. The sample group consisted of 21 human resource executives experts, comprising human resource executives in the hotel business, executives of the hotel business, academic scholars from the university, academic scholars from the Thai Hotels Association, and academic scholars from the Personnel Management Association of Thailand, by using questionnaires as a research tool.

Research results revealed that the competency of the Human Resources Executives in the hotel business consisted of 3 core competencies and 19 sub-competencies as follows: 1) Knowledge competence, which consists of 5 sub-competences, namely, 1.1) Basic Knowledge of HR Management; 1.2) Business Acumen; 1.3) Basic Knowledge of Marketing; 1.4) Knowledge of Working Style 1.5) Knowledge of Labor Law, 2) Skill competence, which consists of 10 sub-competences, namely, 2.1) Digital Skill 2.2) Analytical Thinking and Problem Solving 2.3) Creativity & Innovation 2.4) Language and Communication, 2.5) Strategic Thinking, 2.6) Planning and Organizing 2.7) Conflict Management 2.8) Teamwork; 2.9) Employee Engagement; 2.10) Workforce Diversity Management, 3) Personal characteristics competence consists of 4 sub-competences, namely, 3.1) Professional Ethics of Human Resources 3.2) Change Agent 3.3) Growth Mindset, and 3.4) Emotional Maturity. The results of this research will benefit the development of human resource executives according to the organization's goals.

ปัจจุบันสมรรถนะเป็นสิ่งสำคัญในการปฏิบัติงานของผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ในธุรกิจโรงแรมระดับ 3 – 5 ดาว เนื่องจากสถานการณ์โลกและสถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทยนั้นเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทำให้ธุรกิจโรงแรมได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ทำให้ผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรมนุษย์จะต้องมีการปรับสมรรถนะให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในธุรกิจ การวิจัยนี้จึงศึกษาสมรรถนะของผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ในธุรกิจโรงแรมโดยใช้เทคนิคเดลฟาย มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาขอบเขตสมรรถนะของผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ในธุรกิจโรงแรมระดับ 3 – 5 ดาว และ 2) เพื่อกำหนดตัวชี้วัดสมรรถนะของผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ในธุรกิจโรงแรมระดับ 3 – 5 ดาว กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการทรัพยากรมนุษย์จำนวน 21 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ในธุรกิจโรงแรม ผู้บริหารธุรกิจโรงแรม นักวิชาการจากมหาวิทยาลัย นักวิชาการจากสมาคมโรงแรมไทย และนักวิชาการจากสมาคมการบริหารงานบุคคลแห่งประเทศไทย โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการวิจัย

ผลการวิจัย พบว่า สมรรถนะของผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ในธุรกิจโรงแรม ประกอบด้วย 3 สมรรถนะหลัก และ 19 สมรรถนะย่อย ได้แก่ 1) สมรรถนะด้านความรู้ ประกอบด้วยสมรรถนะย่อย 5 ด้าน ดังนี้ 1.1) ความรู้พื้นฐานในงานจัดการทรัพยากร 1.2) ความรอบรู้ในธุรกิจของ 1.3) ความรู้พื้นฐานทางการตลาด 1.4) ความรู้เกี่ยวกับรูปแบบการทำงาน 1.5) ความรู้พื้นฐานด้านกฎหมายแรงงาน 2) สมรรถนะด้านทักษะ ประกอบด้วยสมรรถนะย่อย 10 ด้าน ดังนี้ 2.1) การใช้ดิจิทัล 1.2) การคิดวิเคราะห์และแก้ไขปัญหา 1.3) ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม 1.4) ทักษะภาษาและการสื่อสาร 1.5) การคิดเชิงกลยุทธ์ 1.6) การวางแผนและจัดการงาน 1.7) การจัดการความขัดแย้ง 1.8) การทำงานเป็นทีม 1.9) การสร้างความผูกพันต่อองค์การของ 1.10) การจัดการความหลากหลายของบุคลากร และ 3) สมรรถนะด้านคุณลักษณะส่วนบุคคล ประกอบด้วยสมรรถนะย่อย 4 ด้าน ดังนี้ 3.1) จริยธรรมในการปฏิบัติงานด้านทรัพยากร 3.2) ผู้นำการเปลี่ยนแปลง 3.3) ความคิดแบบเติบโต และ 3.4) วุฒิภาวะทางอารมณ์ จากผลการวิจัยนี้จะก่อให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาผู้บริหารฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ได้อย่างตรงตามความต้องการขององค์การ