The Effects of Using Digital Storytelling Learning Activities to Enhance English Reading Comprehension Ability of Grade 12 Students

Abstract

The purposes of this research were to: 1) compare students English reading comprehension ability before and after using digital storytelling learning activities 2) investigate students’ opinions toward digital storytelling learning activities.

The sample, selected by a cluster sampling technique, comprised 30 grade-twelve students at Benchamatheputhit Phetchaburi School during the first semester of academic year 2022. The students did pretest and studied 4 learning units with digital storytelling learning activities to enhance English reading comprehension ability. Each unit was conducted in 2 hours and the experiment covered 4 weeks in total.

The instruments used for this research consisted of: 1) an English reading comprehension test, used as a pretest and posttest 2) 4 learning units with digital storytelling learning activities and 3) an opinion questionnaire toward digital storytelling learning activities. Mean and standard deviation of items were used to evaluate the students’ opinions toward digital storytelling learning activities. The paired-sample t-test was used to analyze the students’ ability in English reading comprehension.

The results of the study were as follows:

1. The students’ English reading comprehension ability after using digital storytelling learning activities were significantly higher at the .05 level.

2. The students’ opinion toward digital storytelling learning activities were at the highest level.

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนก่อนและหลังเรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้การเล่าเรื่องแบบดิจิทัล 2) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนต่อการใช้กิจกรรมการเรียนรู้การเล่าเรื่องแบบดิจิทัล

กลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเบญจมเทพอุทิศจังหวัดเพชรบุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ด้วยการสุ่มแบบกลุ่ม จำนวน 1 ห้องเรียน 30 คน จากนั้นทำการทดลองโดยให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน จำนวน 30 ข้อ และจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้การเล่าเรื่องแบบดิจิทัล ใช้เวลาทั้งสิ้น 4 สัปดาห์

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 2) แผนการจัดการเรียนรู้การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้การเล่าเรื่องแบบดิจิทัลจำนวน 4 แผน ได้แก่ 1) Come up with an idea and Learn 2) Script and Storyboard 3) Gather and Create images, audio, video และ 4) Share and Feedback และ 3) แบบสอบถามความคิดเห็นต่อการใช้กิจกรรมการเรียนรู้การเล่าเรื่องแบบดิจิทัล วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบ t แบบไม่เป็นอิสระต่อกัน

ผลการวิจัยพบว่า 1) ความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนหลังเรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้การเล่าเรื่องแบบดิจิทัลสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 2) นักเรียนมีความคิดเห็นต่อการใช้กิจกรรมการเรียนรู้การเล่าเรื่องแบบดิจิทัลอยู่ในระดับเห็นด้วยมากที่สุด