Please use this identifier to cite or link to this item:
http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/973
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | สนธิวรรธนะ, มนู | - |
dc.contributor.author | Sandhivadhana, Manu | - |
dc.date.accessioned | 2017-08-31T04:33:27Z | - |
dc.date.available | 2017-08-31T04:33:27Z | - |
dc.date.issued | 2559-08-15 | - |
dc.identifier.uri | http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/973 | - |
dc.description | 55260911 ; สาขาวิชาพัฒนศึกษา -- มนู สนธิวรรธนะ | en_US |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยและพัฒนา มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการสังคมร่มเย็นเป็นสุขของชุมชนโดยใช้ศาสนาเป็นฐานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2) เพื่อพัฒนารูปแบบสังคมร่มเย็นเป็นสุขของชุมชนโดยใช้ศาสนาเป็นฐานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบสังคมร่มเย็นเป็นสุขของชุมชนโดยใช้ศาสนาเป็นฐานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 4) เพื่อประเมินรูปแบบและถอดบทเรียนสังคมร่มเย็นเป็นสุขของชุมชนโดยใช้ศาสนาเป็นฐานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการเป็นตัวแทนประชากรจาก 16 อำเภอ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 400 คน ใช้การสุ่มแบบชั้นภูมิตามสัดส่วน เก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณด้วยแบบสอบถาม และเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์ระดับลึกผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 10 คน โดยการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive selection) ประชากรกลุ่ม เป้าหมายในการทดลองใช้รูปแบบ คือ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอบรม การเสวนากลุ่มย่อย และเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ได้แก่ ผู้นำชุมชน แกนนำ ตัวแทนสถาบันศาสนา และสมาชิกจิตสาธารณะ ในพื้นที่เป้าหมายสองชุมชนจากผลการศึกษานำร่องโดยการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง จำนวน 30 คน และประชุมนำเสนอหัวหน้าส่วนราชการ จำนวน 12 คน เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสังเกตและบันทึกพฤติกรรมการปฏิบัติ แบบทดสอบความรู้ก่อนและหลังการอบรม แบบประเมินผลการอบรม แบบประเมินความพึงพอใจ แบบประเมินผลการจัดประชุมนำเสนอ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่า t แบบ dependent วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) กลุ่มตัวอย่างมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในภาพรวม 7 ด้าน อยู่ในระดับมาก โดยด้านวัฒนธรรมและศาสนา อยู่ในลำดับที่หนึ่ง 2) รูปแบบสังคมร่มเย็นเป็นสุขของชุมชนโดยใช้ศาสนาเป็นฐานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นผลการศึกษาเชิงคุณภาพด้วยการสังเคราะห์วรรณกรรม การสัมภาษณ์ระดับลึก และการศึกษาเชิงปริมาณด้วยแบบสอบถาม ได้รูปแบบชื่อว่า DOCTRINE Model มี 8 องค์ประกอบ ได้แก่ D = Dogma (สมาชิกชุมชนปฏิบัติตามคำสอนของศาสนา) O = Oneness (สมาชิกชุมชนมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน) C = Cooperation (สมาชิกชุมชนต่างศาสนามีความร่วมมือช่วยเหลือกัน) T = Training and Learning Program (กิจกรรมการอบรมและเรียนรู้ทางโลกและทางธรรมภายในชุมชน) R = Religions Centre (สถาบันศาสนาเป็นที่พึ่งทางจิตใจและเป็นศูนย์กลางชุมชน) I = Independence in Public Participation (สมาชิกชุมชนต่างศาสนามีอิสระและมีส่วนร่วมกิจกรรมชุมชน) N = News and Knowledge Distribution (การเผยแพร่ข่าวสารความรู้ทางโลกและทางธรรมสู่ชุมชน) E = Equilibrium Development (การพัฒนาชุมชนอย่างสมดุลตามแนวทางศาสนา) 3) ผลการทดลองใช้รูปแบบกับประชากรในพื้นที่สองชุมชนผ่านกิจกรรมการอบรม มีผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้หลังการอบรมสูงกว่าก่อนการอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และความคิดเห็นของผู้เข้ารับการอบรมที่มีต่อการประเมินผลการจัดอบรมอยู่ในระดับมาก โดยมีความเห็นว่าหัวข้อการอบรมเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและเนื้อหาสาระการอบรมเป็นความรู้ที่สามารถนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต 4) การประเมินรูปแบบและถอดบทเรียน พบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมในพื้นที่สองชุมชนมีความพึงพอใจในรูปแบบทุกด้านในระดับมาก และการถอดบทเรียน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีการขยาย ขับเคลื่อนกิจกรรมการเรียนรู้ กิจกรรมการปฏิบัติ และจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ต่อเนื่องไปสู่สมาชิกชุมชนอื่นและในภาคีเครือข่าย The study was conducted by using the Research and Development Method. The purpose of this research was to 1) study the current conditions and needs of green and happiness society in community based on religions in Ayutthaya province; 2) develop the green and happiness society model in community based on religions in Ayutthaya province; 3) experiment the green and happiness society model in community based on religions in Ayutthaya province; 4) Evaluate the green and happiness society model in community based on religions in Ayutthaya province and Complete its lesson learned. Samples for studying current conditions and needs became population in Ayutthaya province 400 persons with proportional stratified random sampling, and 10 stakeholders by purposive selection. Questionnaire was used for collecting quantitative data, and In-depth interview was used for collecting qualitative information. Target population for model experiment became resulted of pilot study, two communities with 30 persons by purposive selection such as leader, mainstay and public mind, implemented by activities such as training, focus group discussion, community of practice activities and presentation to leader of government officers totally 12 persons. Observation Form, Pre-test and Post-test, Training Evaluation Form, Satisfaction Evaluation Form and Presentation Evaluation Form were used for collecting data and information. Frequency, Means, Standard deviation and t-test (dependent) were applied for analyzing quantitative data, and content analysis was applied for descripting qualitative information. The findings of the research were as follows; 1) the samples’ opinion regarding current conditions overall of Ayutthaya was high level in which culture and religions aspect was highest; 2) the development of green and happiness society model in community based on religions in Ayutthaya, DOCTRINE Model had 8 indicators, namely, D (Dogma) O (Oneness) C (Cooperation) T (Training & Learning Program) R (Religions Centre) I (Independent in Public Participation) N (News & Knowledge Distribution) E (Equilibrium Development), which approved by the experts; 3) the experiment involved target population in two communities in Ayutthaya province and showed learning achievement after activity statistically significantly higher than before activity at the .05 level, and opinion to evaluation was good especially the subject matter aspect can be applied in real life. 4) the evaluation was satisfied with each aspect of the Model, and Lessons learned showed that target population in two communities in Ayutthaya province were applied learning, practice and community of practices activities of the Model to other members in communities including associate network. | en_US |
dc.publisher | มหาวิทยาลัยศิลปากร | en_US |
dc.subject | รูปแบบสังคมร่มเย็นเป็นสุขของชุมชนโดยใช้ศาสนาเป็นฐาน | en_US |
dc.subject | GREEN AND HAPPINESS SOCIETY MODEL IN COMMUNITY BASED ON RELIGIONS | en_US |
dc.title | การพัฒนารูปแบบสังคมร่มเย็นเป็นสุขของชุมชนโดยใช้ศาสนาเป็นฐาน ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา | en_US |
dc.title.alternative | DEVELOPMENT OF GREEN AND HAPPINESS SOCIETY MODEL IN COMMUNITY BASED ON RELIGIONS IN AYUTTHAYA PROVINCE | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
Appears in Collections: | Education |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
55260911 มนู สนธิวรรธนะ.pdf | 11.32 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.