The Effectiveness Study of using Social Network in the Marketing of Thai Automotive Parts Sellers

Abstract

Currently, electronic Commerce (E-Commerce) has gained more interest among entrepreneurs as a mean to operate their businesses. This research aims to analyze situations on Facebook, one of famous online networks, in terms of marketing for motor vehicles, auto parts and accessories, and the effectiveness of marketing through online community networks such as Facebook in mean for business operations, which could enable advantages over competitors and increase more opportunity in marketing for businesses. Descriptive analysis was performed by using Cochran’s formula and a statistical program to analyze data obtained from the questionnaires were obtained from online groups of auto parts entrepreneurs, particularly in artificial auto parts and accessories. The results showed that the situation of social network type Facebook among entrepreneurs that saw the importance of social network can help businesses the opportunity to grow more and more because it is regarded a tool which the business deal on competition both from the market. In the country The results suggested overall the average of the group of auto parts and accessories entrepreneurs on perspectives towards E-Commerce was high (= 4.46) In terms of perspectives of products and services of the entrepreneurs on Facebook towards online selling, overall the average of their perspectives was high (= 4.50) . Lastly, the average of the entrepreneurs’ perspectives on marketing towards the use of online community networks to operate businesses was high ( = 4.22). Therefore, the use of online community networks such as Facebook is important in developing good relationships with customers in E-Commerce, allowing businesses to attract more customers and enabling convenient access to customers. Moreover, Facebook could make online selling of products and services become available via online community networks, provide accessing to customers more easily, make low cost of marketing possible, decreas marketing costs, and increase sales volumes. However, there are some products in which online communication cannot compensate as typical sales methods can. These are products that require specific techniques such as the engine system, the suspension system and the power train system which account for 55 percent of auto part products. Accordingly, for the group of auto part entrepreneurs doing marketing for these products, it could be difficult to achieve as the products require more complex communication and specialists with technical skills to communicate with customers.

ในปัจจุบันพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) กำลังเป็นที่ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ งานวิจัยนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์เครือข่ายสังคมออนไลน์ประเภทเฟซบุ๊คและศึกษาประสิทธิผลของสื่อสารการตลาดผ่านช่องทางเครือข่ายของสังคมออนไลน์จำพวกเฟซบุ๊คในการทำการตลาดสินค้าอุตสาหกรรมประเภทยานยนต์และอะไหล่ตกแต่งเพื่อสร้างความได้เปรียบที่จะมีเหนือคู่แข่ง และผลักดันให้ธุรกิจสามารถมีโอกาสในทางการตลาดเพิ่มขึ้น งานวิจัยนี้มีกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่สามารถทราบถึงจำนวนประชากรที่แน่นอน ผู้วิจัยจึงได้เลือกใช้สูตรของคอแครนในการหาจำนวนกลุ่มตัวอย่าง n=400 การศึกษานี้ได้ใช้แบบสอบถามออนไลน์ ในการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับกลุ่มผู้ค้าขายชิ้นส่วนยานยนต์ จำพวกอะไหล่เทียม และอะไหล่ตกแต่งออนไลน์ ซึ่งจากผลการวิจัยพบว่า สถานการณ์ของเครือข่ายสังคมออนไลน์ประเภทเฟซบุ๊คนั้น กลุ่มผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้เห็นความสำคัญของเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่จะสามารถช่วยทำให้ธุรกิจมีโอกาสเติบโตเพิ่มมากขึ้นเพราะถือได้ว่าเป็นเครื่องมือหนึ่งซึ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจรับมือต่อการแข่งขันทั้งจากภายในประเทศและนอกประเทศได้ โดยที่กลุ่มผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความคิดเห็นด้านทัศนคติเชิงพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ในภาพรวมอยู่ในระดับที่มากที่สุด (= 4.46) และยังมีความคิดเห็นด้านเฟซบุ๊คเกี่ยวกับธุรกิจการขายสินค้าและบริการผ่านออนไลน์ อยู่ในระดับที่มากที่สุด (= 4.50) และสุดท้ายมีความคิดเห็นของด้านการตลาดเกี่ยวกับการนำเครือข่ายสังคมออนไลน์เข้ามาใช้งาน ในภาพรวมอยู่ในระดับที่มากที่สุด (= 4.22) ดังนั้นประสิทธิผลของการนำเครือข่ายสังคมออนไลน์ประเภทเฟซบุ๊คมาใช้งานในการทำธุรกิจ จะส่งผลให้สามารถดึงดูดลูกค้าเข้ามาได้มากขึ้น อีกทั้งยังทำให้เกิดความน่าสนใจต่อธุรกิจ ช่วยทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักบนเครือข่ายสังคมออนไลน์ประเภทเฟซบุ๊ค และยังเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นเฟซบุ๊คยังมีต้นทุนทางการตลาดที่ต่ำทำให้เหมาะกับธุรกิจวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและช่วยกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น แต่ยังมีสินค้าบางประเภทที่การสื่อสารยังไม่สามารถชดเชยได้ คือสินค้าประเภทที่ต้องอาศัยเทคนิคเฉพาะด้าน เช่น ระบบเครื่องยนต์ ระบบช่วงล่าง ระบบส่งกำลัง คิดเป็นร้อยละ 55 ดังนั้นในกลุ่มของผู้ประกอบการดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นนั้นจะมีการทำการตลาดที่ค่อนข้างยาก เนื่องจากต้องมีการสื่อสารที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น และต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคในการสื่อสารกับลูกค้า