การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศกับภาวะสุขภาพ เปรียบเทียบระหว่างจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดนครปฐม

Abstract

การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในปัจจุบันส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบนิเวศ รวมไปถึงสุขภาพมนุษย์ การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และการเกิดโรคกรณีศึกษาจังหวัดนครปฐมและจังหวัดเชียงใหม่ระหว่าง พ.ศ. 2537-2554 ใช้ข้อมูลทุติยภูมิของสภาวะภูมิอากาศ และการเกิดโรคของทั้งสองจังหวัด และนำมาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ทางสถิติการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ คัดเลือกโรคมาจำนวน 10 โรค คือ โรคไข้รากสาดน้อย ไข้รากสาดเทียมและการติดเชื้อซัลโมเนลลา โรคติดเชื้ออื่นๆของลำไส้ โรคสมองอักเสบจากเชื้อไวรัส โรคไข้เลือดออกจากเชื้อเด็งกี่ และไข้เลือดออกจากเชื้อไวรัส โรคมาลาเรีย โรคติดเชื้อและปรสิตอื่นๆ โรคเลือดและอวัยวะสร้างเลือดและความผิดปกติบางชนิดที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน โรคความผิดปกติจากโรคประสาท ความเครียดและอาการทางกายที่หาสาเหตุไม่ได้ โรคระบบหายใจส่วนบนติดเชื้อเฉียบพลัน และโรคอื่นๆของระบบหายใจส่วนบน และโรคอื่นๆของระบบหายใจ กำหนดตัวแปรต้น ประกอบด้วย ปริมาณฝน แสงแดดเฉลี่ย ความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ย และอุณหภูมิเฉลี่ย ตัวแปรตามคืออัตราผู้ป่วยในของโรคแต่ละชนิดต่อประชากร 100,000 คน ผลการศึกษาพบว่า ความชื้นสัมพัทธ์เป็นตัวแปรที่มีนัยสำคัญทางสถิติ (p-value <0.05) มีความสัมพันธ์ต่ออัตราการเกิดโรคติดเชื้ออื่นๆของลำไส้ ไข้เลือดออกจากเชื้อเด็งกี่ ไข้เลือดออกจากเชื้อไวรัส และโรคมาลาเรียในจังหวัดนครปฐม และโรคไข้เลือดออกจากเชื้อเด็งกี่ ไข้เลือดออกจากเชื้อไวรัส ในจังหวัดเชียงใหม่ แสงแดด และความชื้น เป็นตัวแปรที่มีอิทธิพลต่ออัตราการเกิดโรคติดเชื้อและปรสิตอื่นๆ โรคเลือดและอวัยวะสร้างเลือดและความผิดปกติบางชนิดที่เกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน และโรคอื่นๆของระบบหายใจในจังหวัดนครปฐม ความชื้นและอุณหภูมิ เป็นตัวแปรที่มีอิทธิพลต่ออัตราการเกิดความผิดปกติจากโรคประสาท ความเครียดและอาการทางกายที่หาสาเหตุไม่ได้ โรคระบบหายใจส่วนบนติดเชื้อเฉียบพลัน และโรคอื่นๆของระบบหายใจส่วนบนในจังหวัดนครปฐม แสงแดด และปริมาณฝนเป็นตัวแปรที่มีนัยสำคัญทางสถิติ มีความสัมพันธ์ต่ออัตราการเกิดโรคติดเชื้ออื่นๆของลำไส้ในจังหวัดเชียงใหม่

Currently, climate change directly affect ecosystem and also human health. In this study, the aims were investigate the relationships between climate change and health conditions. Nakhon Pathom province and Chiang Mai province are the case study. Secondary data of meteorological conditions and health conditions within the period of 1994-2011 were collected and analyzed. Multiple regression analysis was done for the correlation. The selection of ten diseases related to climate change consist of typhoid and paratyphoid fever, other intestinal infectious diseases, viral encephalitis, viral haemorrhagic fevers, malaria, infectious and parasitic diseases, blood and blood-forming organs and certain disorders involving the immune mechanism, neurotic, stress related and somatoform disorders, acute upper respiratory infection and other diseases of the upper respiratory tract and other diseases of the respiratory system. The independent variables were rainfall, average temperature, sunlight and relative humidity. The dependent variables were the rate of patients in each disease per 100,000 population. The results found significant statistical correlation (p-value<0.05) between relative humidity and some diseases. Those significance were other intestinal infectious diseases, viral haemorrhagic fevers and malaria for Nakhon Pathom and viral haemorrhagic fevers for Chiang Mai. The factors that showed the correlation in infectious and parasitic diseases, blood and blood-forming organs and certain disorders involving the immune mechanism, and other diseases of the respiratory system for Nakhon Pathom were average sunlight and humidity. The factors that showed the correlation in neurotic, stress related and somatoform disorders, acute upper respiratory infection and other diseases of the upper respiratory tract for Nakhon Pathom were average temperature and humidity. In addition, factors that influence the incidence of other intestinal infectious diseases for Chiang Mai were average sunlight and rainfall (p-value<0.05).