Please use this identifier to cite or link to this item: http://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/2257
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributorAdisorn PAKCHALINen
dc.contributorอดิศร ภัคชลินท์th
dc.contributor.advisorSiwanit Autthawuttikulen
dc.contributor.advisorศิวนิต อรรถวุฒิกุลth
dc.contributor.otherSilpakorn University. Educationen
dc.date.accessioned2019-08-08T06:19:00Z-
dc.date.available2019-08-08T06:19:00Z-
dc.date.issued12/7/2019
dc.identifier.urihttp://ithesis-ir.su.ac.th/dspace/handle/123456789/2257-
dc.descriptionMaster of Education (M.Ed.)en
dc.descriptionศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (ศษ.ม)th
dc.description.abstractThe purposes of this research were: 1) to study the student’s abilities in problem solving skill that learned by flipped classroom teaching with web application using case-based learning.   2) to compare pretest and posttest of learning achievement on flipped classroom teaching with web application using case-based learning. 3) to study the learning behaviors of samples. 4) to study students’ satisfaction on flipped classroom teaching with web application using case-based learning. The research samples used in this study were tenth grade at Krabyai Vongkusolkit Phitthayakhom School studying in first semester of academic year 2018. The samples were a classroom of 40 students by simple random sampling. The research instruments were 1) a structure interview form, 2) a lesson plans of flipped classroom teaching with web application using case-based learning, 3) Google Classroom web application, 4) a test of problem-solving skill in C computer programming, 5) the learning achievement test for C computer programming, 6) the behavior in flipped classroom teaching with web application using case-based learning observation form, and 7) questionnaire on student’s satisfaction on flipped classroom teaching with web application using case-based learning. The statistics used in this study were percentage, average scores standard deviation, reliability scores, validity scores, and the t-test dependent. The results of this research were as follow: 1) The student’s problem solving skill of C computer programming was excellent level ( average score = 16.75), 2) Posttest of the learning achievement of flipped classroom teaching with web application using case-based learning was higher than pretest at .01 level of significance, 3) The behaviors of students taught via flipped classroom teaching with web application using case-based learning was excellent (average score = 14.63), and 4) The student's satisfaction for flipped classroom teaching with web application using case-based learning overall were at a good level ( average score = 3.98, S.D. = 0.74)en
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียน จากการจัดการเรียนการสอนโดยใช้วิธีสอนแบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับกรณีศึกษาผ่านเว็บแอปพลิเคชัน   2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน 3) ศึกษาพฤติกรรมการมีส่วนร่วมของนักเรียนจากการจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับกรณีศึกษา ผ่านเว็บแอปพลิเคชัน 4) ศึกษาความพีงพอใจของนักเรียนจากการจัดการเรียนการสอน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกรับใหญ่ว่องกุศลกิจพิทยาคม ที่กำลังศึกษาในปีการศึกษา 2561 จำนวน 1 ห้องเรียน ทั้งหมด 40 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง 2) แผนการจัดการเรียนรู้ห้องเรียนกลับด้านร่วมกับกรณีศึกษา ผ่านเว็บแอปพลิเคชัน 3) เว็บแอปพลิเคชัน Google Classroom รายวิชาภาษาซี 4) แบบวัดทักษะการแก้ปัญหาวิชาภาษาซี 5) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาซี 6) แบบบันทึกพฤติกรรมการเรียนแบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับกรณีศึกษา ผ่านเว็บแอปพลิเคชัน 7) แบบสอบถามความความพีงพอใจที่มีต่อการเรียนแบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับกรณีศึกษา ผ่านเว็บแอปพลิเคชัน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความเที่ยงตรง ค่าความยากง่าย ค่าความเชื่อมั่น และการทดสอบค่าที (t-test แบบ dependent) ผลการวิจัยพบว่า 1) ทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียนหลังเรียนด้วยวิธีสอนแบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับกรณีศึกษา ผ่านเว็บแอปพลิเคชัน อยู่ในระดับ ดีมาก ( ค่าเฉลี่ย = 16.75) 2) ผลการเปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยวิธีสอนแบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับกรณีศึกษา ผ่านเว็บแอปพลิเคชัน พบว่า คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยคะแนนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 13.00 คะแนนและคะแนนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 32.23 คะแนน 3) พฤติกรรมการมีส่วนร่วมของนักเรียน หลังเรียนด้วยวิธีสอนแบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับกรณีศึกษา ผ่านเว็บแอปพลิเคชัน พบว่า มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 14.63 อยู่ในระดับ ดีมาก 4) ความความพีงพอใจของนักเรียนหลังเรียนด้วยวิธีสอนแบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับกรณีศึกษา ผ่านเว็บแอปพลิเคชัน พบว่า มีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( ค่าเฉลี่ย = 3.98 และ S.D. = 0.74)th
dc.language.isoth
dc.publisherSilpakorn University
dc.rightsSilpakorn University
dc.subjectห้องเรียนกลับด้านth
dc.subjectเว็บแอปพลิเคชันth
dc.subjectกรณีศึกษาth
dc.subjectการแก้ปัญหาth
dc.subjectFLIPPED CLASSROOMen
dc.subjectWEB APPLICATIONen
dc.subjectPROBLEM SOLVINGen
dc.subjectCASE BASED LEARNINGen
dc.subject.classificationComputer Scienceen
dc.titleTHE EFFECTS OF FLIPPED CLASSROOM TEACHING WITH WEB APPLICATION USING CASE BASED LEARNING ON PROBLEM-SOLVING SKILLS IN COMPUTER PROGRAMMING OF TENTH GRADE STUDENTen
dc.titleผลการจัดการเรียนการสอนโดยใช้วิธีสอนแบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับกรณีศึกษา ผ่านเว็บแอปพลิเคชัน ที่ส่งผลต่อทักษะการแก้ปัญหาการเขียนโปรแกรมภาษาซี ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกรับใหญ่ว่องกุศลกิจพิทยาคมth
dc.typeThesisen
dc.typeวิทยานิพนธ์th
Appears in Collections:Education

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
57257316.pdf3.41 MBAdobe PDFView/Open


Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.